ทักทายผู้เข้าชม

ยินดีต้อนรับผู้เข้าอบรมทุกคน อบรมสนุกไหมจ๊ะ.....

สไลด์


นาฬิกา

วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552

การอ่านและพิจารณาเรื่องสั้น

มอม
ผู้แต่ง ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช
ลักษณะการแต่ง ร้อยแก้วประเภทเรื่องสั้น
ฉากของเรื่อง คือ กรุงเทพมหานคร แถบถนนเพชรบุรี เรื่อยมาจนถึงถนนราชวิถี ช่วงเวลาของ เหตุการณ์ในเรื่องเป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 กรุงเทพมหานครถูกโจมตีทางอากาศ อย่างรุนแรง บ้านเรือนเสียหายและผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ตัวละครในอีกครอบครัวหนึ่งมีฐานะปานกลาง ครอบครัวหนึ่งมีชีวิตเรียบง่ายแบบคนไทยทั่วๆไป ตัวละครในอีกครอบครัวหนึ่งมีฐานะดี มอมตัวเอกของเรื่อง เป็นสุนัขของครอบครัวหนึ่งในตอนต้นของชีวิต แต่ภัยจากสงครามทำให้มอมตกมาอยู่กับอีกครอบครัวหนึ่ง และในที่สุดเหตุการณ์ก็ผันกลับให้มาพบนาย เจ้าของเดิมของตน
แนวคิดสำคัญ
1. ความรักและความผูกพันระหว่างมนุษย์และสัตย์เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เช่น ความผูกพันระหว่างมอม กับนายของมันเมื่อจะต้องพลัดพรากจากกันก็โศกเศร้าและเสียใจ ดังนี้ "มอม ไอ้มอม" เสียงนายกระซิบที่หู "ข้าจะต้องจากไปนาน จะได้กลับมาเมื่อไรก็ยังไม่รู้ เอ็งอยู่ทาง หลังช่วยเฝ้าบ้าน ช่วยดูนายผู้หญิง ช่วยดูหนู เอ็งรักข้ามากข้ารู้ เอ็งต้องทำตามที่ข้าสั่งแล้วคอยข้าอยู่ที่นี่ ไม่ตายข้าจะกลับ" มอมเอาหน้าไปแนบที่หน้านาย ตามใบหน้าของนายนั้นอาบไปด้วยน้ำตาเป็นครั้งแรกที่มันได้เห็น มอมส่งนายเพียงประตูบ้านแล้วมันก็เดินกลับเรือน หางตกหัวตก มันเดินช้าๆ ไปที่หัวกระไดที่มันเคยนอน ล้มตัวลงเหยียดยาวตาจับอยู่ที่ประตูบ้าน มอมครางออกมาเบาๆ เหมือนกับจะอุทานความในใจของมันให้คนรู้ว่า ชีวิตของมอมสิ้นสุดลงตั้งแต่วาระที่นายออกไป และจะเป็นเช่นนั้นจนกว่านายจะกลับมาอีก แสดงให้เห็นความรัก และความผูกพันระหว่างนายกับมอม "ชีวิตของมอมนั้นสิ้นสุดลงนับตั้งแต่วาระที่นายออกจากบ้านไป จะเป็นเช่นนั้นจนกว่านายจะกลับมาอีก" แสดงให้เห็นความผูกพันกันอย่างลึกซึ้งคือเหมือนชีวิตจะสิ้นสุดลง หลังจากการจากกันครั้งนั้น
2. สัตว์ย่อมไม่สามารถละทิ้งสัญชาตญานได้ เช่น ตอนที่มอมหนีหายนายไปเพราะมีความรักต่อ นางนวลสุนัขด้วยกัน ดังนี้ มอมมันเคยทิ้งนายไปแต่เพียงครั้งเดียวในชีวิต เมื่อมอมแตกเนื้อหนุ่มเต็มที่ อากาศกำลังหนาว น้ำขึ้นเจิ่งคลอง บางวันก็ท่วมพ้นตลิ่งขึ้นมา มอมก็ไปหลงรักนางนวลซึ่งกำลังแตกเนื้อสาวอยู่บ้านถัดไปอีก 3-4 หลังคาเรือน มอมหลงใหลจนเสียท่า ข้าวปลาไม่เป็นอันกินกลางคืนดึกๆ เดือนสว่าง มอมนั่งมองพระจันทร์แล้ว ก็หอนด้วยความวังวนใจ ในตอนแรกมันเพียงแต่หลบไปหานางนวลชั่งครู่คราวแล้วก็กลับบ้าน ครั้นต่อมาอาการรัก หนักขึ้นมันก็ไม่กลับเอาเลย เฝ้าวนเวียนอยู่แถวนั้น คอยไล่กัดตัวผู้อื่นๆ ที่มาตอมนางนวลเป็นฝูง คนในบ้านเขา หนวกหูหนักเข้า เขาก็ทุบตีเอาบ้าง เอาอิฐขว้างเอาบ้าง มอมก็ต้องทนหรือการไม่ยอมให้สุนัขตัวอื่นมาถ่ายรดที่ที่ได้ ปัสสาวะเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ดังนี้ ตามธรรมเนียมสุนัขนั้น ถ้าจะออกจากบ้านไปไหนต้องถ่ายปัสสาวะรายทางไว้ สำหรับดมกลิ่นของตนเอง เพื่อจะได้กลับบ้านถูก ที่ที่จะถ่ายรดนั้นก็ต้องเป็นที่ที่สังเกตได้ง่าย สูงเพียงระดับจมูก ไม่ต้องก้มลงดมให้เสียเวลา เป็นต้นว่า เสาไฟฟ้าหรือต้นไม้ข้างทาง ออกจากบ้านเดินไปก็ต้องยกขาถ่ายรดเอาไว้เป็นสำคัญ แต่ถ้ามีสุนัขตัวอื่นมา ถ่ายทับเสีย กลิ่นนั้นก็จะเพี้ยนไป ทำให้กลับบ้านไม่ถูก การถ่ายปัสสาวะรดที่ตัวอื่นถ่ายไว้แล้ว ถือเป็นการหยามเกียรติ สุนัขด้วยกัน อภัยให้ไม่ได้ และถ้าทำต่อหน้าเป็นการท้าทายกันโดยตรง แสดงว่าไม่เคารพกันต้องต่อสู้กันจนแพ้ไปข้างหนึ่ง มอมก็เคยถูกท้าทายด้วยวิธีนี้มาหลายครั้ง แต่มันก็สามารถเอาชนะได้ทุกตัว บางครั้งมันกลับบ้านเป็นแผล นายผู้หญิงต้อง คอยล้างแผลใส่ยาให้และขังมันไว้ 2-3 วัน แล้วมันก็แอบหนีไปเที่ยวอีก
3. สงครามนำมาซึ่งการพลัดพราก ความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สิน เช่น เมื่อนายออกจากบ้านไป นายหญิงก็ โศกเศร้าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ดังนี้ นายหายจากบ้านไปคราวนี้ไม่กลับมาอีกเลย นานๆจะมีจดหมายมาถึงนายหญิงซักครั้งนึง มอมเห็นนายหญิงอ่าน แล้วอ่านเล่าและร้องไห้ทุกครั้งไป พอได้สักปีกว่าๆ มอมเห็นความร่วงโรยมากขึ้น นายหญิงซูบผอมลง แต่งกายก็ปอนกว่า แต่ก่อน หนูนั้นโตจนวิ่งได้แล้วแต่ผ่ายผอมไม่อ้วนน่ารักเหมือนแต่ก่อน บ้านที่เรียบร้อยสะอาดสะอ้านนั้น บัดนี้มีแต่หยากไย่ เพราะนายหญิงมิได้เอาใจใส่เช็ดถูอย่างเคย นายผู้หญิงและหนูได้เสียชีวิตไปเพราะการทิ้งระเบิดและบ้านที่มอมเคยอยู่ถูกไฟไหม้หมด ดังนี้ พอรุ่งสาง มอมได้ยินเสียงคนอึกทึกนอกบ้าน มีรถบรรทุกมาจอดหน้าบ้านตอนนั้นบ้านถูกไฟไหม้ จนมอดลงแล้ว คนกลุ่มหนึ่งเดินถือพลั่วถือเสียมวิ่งเข้ามาในบ้าน เมื่อเห็นมอมยืนเห่าอยู่ที่หลุมจึงเดินตรงเข้ามา พอเห็นเท้านายหญิงโผล่จากกองดิน คนกลุ่มนั้นรีบโกยดินออกทันที ในที่สุดมอมได้เห็นนายหญิงนอนเหยียดยาว เหมือนดังหลับอยู่ใต้กองดินในหลุม หนูนอนนิ่งในอ้อมกอดแม่ มอมจึงโจนเข้าไปในหลุมคร่อมนายหญิงไว้ ใครเข้ามาใกล้ก็ไม่ยอม ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ตัวนายหญิง แต่มอมก็งับเข้าที่แขนเสียงร้องให้คนช่วยลั่นไป ในที่สุดมีคนกลุ่มหนึ่งนำร่างของนายหญิงและหนูขึ้นรถบรรทุกไป มอมจึงวิ่งตามโขยกเกขยงเพราะขามันเจ็บ แต่แล้วก็หมดแรงตะกายกลับบ้าน
4. รัฐบาลไม่มีสวัสดิการที่ดีพอสำหรับทหารผ่านศึกเมื่อรบกลับมาไม่มีอาชีพรองรับ บางครั้งอาจจะต้องทำ ในสิ่งที่ไม่อยากทำ เช่น ลักขโมย แต่ทำไปเพราะความจำเป็น ดังนี้ นายทรุดตัวลงนั่งลูบหัวมอมแล้วกระซิบที่หูมันว่า "มอม ข้าไม่นึกเลยว่าข้าจะได้พบเอ็ง ข้านึกว่าข้าไม่เหลืออะไร แล้วในโลกนี้" นายหยุดพูดไปครู่หนึ่ง "เขาส่งข้าไปไกลข้าไม่รู่ข่าวจากใครเลย พอกลับมาบ้านจึงรู้ว่า ลูกเมียถูกระเบิดตาย งานการที่ข้าเคยทำคนอื่นเขาก็เอาตำแหน่งไปหมดแล้ว แต่เอ็งอย่านึกว่าข้าลักขโมย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกและที่ข้าทำไปเพราะ ข้าไม่มีหนทางจริงๆ แต่โชคดีที่ข้าพบเอ็ง เอ็งทำให้ข้าอาย ข้าทำไม่ลงจริงๆ"
การใช้ภาษา
การใช้ภาษาในเรื่อมอมนั้นเป็นการใช้าภาษาที่สามารถบรรยายให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน และสามารถทำให้ผู้อ่าน เกิดอารมณ์คล้อยตามไปกับเนื้อเรื่องในตอนนั้นๆ เช่น การเคลื่อนไหวที่แสดงความทุกข์ทนทั้งทางกายและทางใจใน ตัวละครเช่นมอม มันเป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงความเดือดร้อน หายนะของผลพวงแห่งสงคราม